Translate

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

จิตขุ่นพาไปสู่ทุคติ







 
                                                   จิตขุ่นพาไปสู่ทุคติ
                                  พระพุทธเจ้าทรงทราบบุคคลบางคนในโลกนี้
                                            ผู้มีจิตขุ่นมัว ได้ทรงพยากรณ์
                              เนื้อความนี้แก่ภิกษุทั้งหลายในสำนักของพระองค์ว่า
                                           ถ้าในสมัยนี้ บุคคลนี้พึงกาลไซร้
                          เข้าพึงเข้าถึงนรกเพราะจิตของเขาขุ่นมัว เขาเป็นอย่างนั้น
                                           เหมือนถูกนำมาทอดทิ้งไว้ฉะนั้น
                                              สัตว์ทั้งหลายย่อมไปสู่ทุคติ
                                                เพราะเหตุแห่งจิตขุ่นมัว 

                                                  ...........................


                        
                                ทุคติอย่างหนึ่งอย่างใดในโลกนี้และในโลกหน้า
                          ทั้งหมดมีอวิชชาเป็นมูลอันปรารถนาและความโลภก่อขึ้น
                               ก็เพราะเหตุที่บุคคลเป็นผู้มีความปรารถนาลามก
                                               ไม่มีหิริ ไม่มีความเอื้อเฟื้อ
                           ฉะนั้น จึงย่อมประสบบาป ต้องไปสู่อบายเพราะบาปนั้น
                            เพราะเหตุนั้น ภิกษุสำรอกฉันทะ โลภะและอวิชชาได้
                                ให้วิชชาบังเกิดขึ้นอยู่ พึงละทุคติทั้งปวงเสียได้


                                                ...........................


                                                   
                                                    บุคคลผู้สงบ
                                    บุคคลผู้สงบเว้นจากการทำความชั่ว
                                          พูดด้วยปัญญา ไม่ฟุ้งซ่าน 
                                        ย่อมกำจัดบาปกรรมทั้งหลาย
                                  เหมือนลมพัดใบไม้ให้ร่วงหล่นไปโแนั้น                                               

                                              ............................




                                                ขออนุโมทนาค่ะ








วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เทวดาทูลถามว่า





ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

                                                 
                                                      เทวดาทูลถามว่า 
                              โลกอันอะไรย่อมนำไป  อันอะไรหนอย่อมเสือกไส้ไป 
                                โลกทั้งหมดเป็นไปตามพระธรรมอันหนึ่ง คืออะไร

                                               พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า 
                                     โลกอันจิตย่อมนำไป อันจิตย่อมเสือกไสไป 
                             โลกทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่ง คือ จิต

                                          
                                                       ....................
                                                   

                                                         การเสียสละ
                                          พึงสละทรัพย์เพื่อเห็นแก่อวัยวะ
                                        พึงสละอวัยวะในเมื่อจะรักษาชีวิต
                                    พึงสละได้หมดทั้งทรัพย์ อวัยวะและชีวิต
                                                   ในเมื่อคำนึงถึงธรรม


                                                     ....................


                                                        
                                                        ความจริง
                                ศรัทธาเป็นทรัพย์เครื่องปลื้มใจของคนในโลก
                                   ธรรมะที่ประพฤติดีแล้วนำความสุขมาให้
                                   ในบรรดารสทั้งหลาย ความจริงนั่นแหละ
                                               เป็นรสอันอร่อยอย่างยิ่ง

                                                    .....................

                               
                                ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านด้วยค่ะ

ที่พึ่งอันสูงสุด



                                    
                          ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
                                 

                                  ผู้ใดถึงพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ  
                                      ผู้นั้นย่อมเห็นอริยสัจ ๔  ด้วยปัญญาอันชอบ
                                  คือ เห็นทุกข์  ทุกขสมุทัย  ทุกขนิโรธและอริยมรรค ๘  
                               ซึ่งให้ถึงซึ่งความสงบจากทุกข์ นั่นแหละเป็นสรณะอันเกษม  
                             เป็นสรณะสูงสุด ผู้อาศัยสรณะนี้ ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงดังนี้

                                                         .....................

                                                     
                                                ปัญญาเป็นแสงสว่างอันประเสริฐ
                                                    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
                                                    ความรักเสมอด้วยตนไม่มี 
                                              ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือกย่อมไม่มี 
                                              แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาย่อมไม่มี
                                                  ฝนต่างหากเป็นสระยอดเยี่ยม

                                                         ......................

                                               
                                                       บุคคลที่ไม่ควรโกรธ
                                              เราไม่ควรทำความโกรธให้ผู้มีคุณ
                                                       เมื่อผู้ทำความผิดมีคุณ
                                              เราไม่ควรทำความโกรธในผู้มีคุณ
                                                      เมื่อผู้ทำความผิดไม่มีคุณ 
                                              เราควรแสดงความสงสารเป็นพิเศษ

                                                            ......................

                                           ขออนุโมทนาในกุศลจิตกับทุกท่านด้วยค่ะ

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รัตนประเสริฐสูงสุด


สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน...บล็อกนี้เพิ่งเปิดใหม่จ๊ะ เกี่ยวกับธรรมสาระสั้น ๆ เตือนจิตวันละนิด ชีวิตจะสดใส....ถูกเตือนแล้วโกรธ ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด ถ้าผู้เตือนน้อยใจ แล้วใครจะเตือนล่ะ เพราะฉะนั้นต้องอาศัยธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นแนวทางเพื่อเตือนตนเองดีกว่านะคะ

จุดประสงค์ของบล็อกนี้....เพื่อน้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อรำลึกถึงพระพุทธคุณ ๓ ประการ คือ พระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ....เนื่องในโอกาสมหามงคล "วันวิสาขบูชา"  ซึ่งปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ นี้ ถ้านับรวมกับเวลาที่พระองค์ ได้ทรงเผยแผ่พระธรรมของพระองค์เป็นเวลา ๔๕ ปี ก็จะเป็นเวลา ๒,๖๐๐ ปี  เรียกว่า "พุทธบูชามหาบารมี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "๒๖ สัมพุทธศตวรรษ"


ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

                                 รัตนประเสริฐสูงสุด

                                    ทรัพย์...คือเครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่ง
                                                    ในโลกนี้หรือโลกอื่น
                                              หรือรัตนใดอันประณีตในสวรรค์
                               ทรัพย์และรัตนนั้น เสมอด้วยพระตถาคตนั้นไม่มีเลย
                                            พุทธรัตนแม้นี้ เป็นรัตนอันประณีต
                             ด้วยสัจวาจานี้ ขอความสุขสวัสดี จงมีแก่ทุกท่านเทอญ

                                        
                                          ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ